สรุป 12 Tenses ในภาษาอังกฤษ

Tense เป็น การเปลี่ยนรูปของคำกริยา เพื่อแสดงขณะต่างๆในประโยคภาษาอังกฤษ ใช้กล่าวว่าเรื่องราวนั้นอยู่ในตอนใด แบ่งเป็น 3 ระยะเวลา คือ
Past = อดีตกาล
Present = เดี๋ยวนี้
Future = อนาคต

โดยแต่ละช่วงแบ่งเป็น 4 แบบแล้วก็มีองค์ประกอบประโยค รวมทั้งวิธีการใช้ที่ไม่เหมือนกันดังต่อไปนี้
Past Tenses ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว มี 4 แบบ เป็น
Past Simple Tense
แนวทางใช้ : ใช้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วแล้วก็จบแล้วในสมัยก่อน
ส่วนประกอบ : S + V2
ข้อสังเกต : yesterday, in the past, last + day/month/year, in + ระยะเวลาในอดีตกาล ตัวอย่างเช่น in 1989


Past Continuous Tense
แนวทางใช้ : ใช้กับสถานะการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตกาล
ส่วนประกอบ : S + was/were + V.ing
ข้อสังเกต : at this time yesterday, at that moment, at this time in the past


Past Perfect Tense
วิธีการใช้ : ใช้ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วเหตุการณ์หนึ่ง
องค์ประกอบ : S + had + V3
ข้อสังเกต : by the time, before, after, when, before last week, by….o’clock yesterday รวมทั้งที่สำคัญ Past Perfect จะใช้คู่กับ Past Simple เสมอ
อ่านรายละเอียดเพิ่มถึงที่เหมาะ >> วิธีการใช้ Past Perfect Tense เรื่องหนึ่งจบอีกหนึ่งเรื่องกำเนิด
Past Perfect Continuous Tense
หลักการใช้ : ใช้ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดอย่างต่อเนื่องแล้วก็เกิดขึ้นก่อนอีกเรื่องราวหนึ่งในอดีตกาล
องค์ประกอบ : S + had + been + V.ing
ข้อสังเกต : for, since, how long, before, after

Present Tenses ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน มี 4 แบบ คือ
Present Simple Tense
แนวทางใช้ : ใช้กับเรื่องที่เกิดในขณะนี้, ทำบ่อยเป็นประจำ, เป็นจริงทางด้านวิทยาศาสตร์
องค์ประกอบ : S + V1 (s, es)
ข้อสังเกต : always, usually, often, never, today, nowadays, every + day/month/year, normally, habitually, naturally